วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

Blogger ของเพื่อนๆ ม.4/2

                                      Blogger  ของเพื่อนๆ ม.4/2

No 1 :
No 2 :
http://freewab42.blogspot.com/ 
No 3 :
http://tew4229.blogspot.com/ 
No 4 : http://peatarn.blogspot.com/
No 5 :
No 6 : http://nujunenongnapas.blogspot.com/ 

No 11 : http://stdworkm45.blogspot.com/
No 12 : http://game22223.blogspot.com/
No 13 : http://supermakebam.blogspot.com/
No 14 : http://ponglist.blogspot.com/
No 16 : http://jenjira123.blogspot.com/
No 17 : http://pimonpakchok.blogspot.com/
No 18 : http://kfjgo.blogspot.com/
No 19 : http://kaewer.blogspot.com/
No 20 :
No 21 : http://paitong4x400m.blogspot.com/
No 22 : http://with-me-love.blogspot.com/
No 23 : http://ing789.blogspot.com/
No 24 : http://ttdialogue.blogspot.com/
No 26 : http://freeweb4226.blogspot.com/
No 27 : http://somoo13.blogspot.com/
No 28 :
No 29 :
No 30 :
No 31 :
No 32 : http://buddyyyyy.blogspot.com/
No 33 :
No 34 :
No 35 : http://carcap.blogspot.com/
No 36 :
No 37 :
No 38 : http://yungkaoaboutme.blogspot.com/
No 39 :
No 40 :

Diary 17 09 2012

                                                                           




วันนี้ต้องตี่นมาเรียน ร.ด. หนิ สายซะเเล้ว เห้อมาทันพอดี มาที่กรมเจอน้ำท่วมไม่ได้เรียนอะไรเลยหน้าเบื่อมากเลย นอนก่อนนะ

Diary 16 09 2012

                                                                             



นอนอยู่บ้านทั้งวันเลย เอ้ยวันนี้ต้องทำการบ้านหนิสู้ๆๆนะ

Diary 15 09 2012

                                                                                 




วันเสาร์มาถึงกรุงเทพเเล้วต้องเรียนเเต่เช้าเลยหนิหว่า จะสายเเล้วเนี้ย อีกตั้ง4ไฟเเดงเเหนะ อ้ามาถึงทันเวลาพอดีหนะ เริ่มเรียนต้อนเช้า ด้วยฟิสิกส์ หน้าเบื่อมาก ต่อด้ยเคมี เเทบจะหลับเเล้วเนี้ย เรียนอังกฤษด้วยไม่ชอบเลยอะ วันนี้พอเเค่นี้นะไดอารี่

Diary 14 09 2012




 วันนี้น่าเบื่อมากต้องกลับบบ้านเร็วอีเเล้ว พรุ้งนี้ต้องไปกรุงเทพอีเเล้วหนะสิ น่าเบื่อมากเลยอ่ะ อยากอยู่บ้านจัง เห้อเเต่ก็ต้องไปอะนะ มาเรียนพิเศษาหนิ
พ่ออุส่ามาส่งต้องตั้งใจเรียน  ไปก่อนนะราตรีสวัสดิ์ นะไดอารี่ที่รัก

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555


วิธีดูแลผิวพรรณ"น้ำผึ้งช่วยอะไรบ้าง" อยากผิวสวยไร้สิวต้องฟัง!!!

"น้ำผึ้งช่วยอะไรบ้าง" สาวๆ หลายๆ คนคงสงสัยกับเรื่องนี้กันมิใช่น้อย วันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ของนำคำถาม "น้ำผึ้งช่วยอะไรบ้าง" ที่สาวๆ หลายคนสงสัยมาบอกกันด้วยค่ะ แล้วยิ่งสาวๆ ที่อยากผิวสวยไร้สิวยิ่งต้องการตัวช่วยอย่างน้ำผึ้งเป็นอย่างมากจริงๆ ค่ะ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะค่ะว่า น้ำผึ้งช่วยอะไรบ้าง นั้นมาหาคำตอบไปพร้อมกับเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) กันเลยดีไหมค่ะ นอกจากน้ำผึ้งจะอุดมไปด้วยประโยชน์นาๆ ต่อสุขภาพร่างกายแล้ว น้ำผึ้งยังช่วยให้ผิวสวยได้มากโข นิยมกันมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณ หากสาวๆ ขาดน้ำผึ้งไปอาจจะอดเสียได้มาได้นะจ๊ะ เพราะว่า อยากผิวสวยไร้สิวยิ่งควรมีไว้ครอบครองค่ะ นอกจากคำถามที่ว่า "น้ำผึ้งช่วยอะไรบ้าง" ที่เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) นำคำตอบมาให้แล้ว ยังแอบนำเคล็ดลับวิธีทำให้ผิวสวยไร้สิวมาฝากกันด้วยค่ะ


น้ำผึ้งช่วยอะไรบ้าง


"น้ำผึ้งช่วยอะไรบ้าง" มีคำตอบ!

น้ำผึ้ง นอกจากจะช่วยให้ทั้งความชุ่มชื้นและล้างสิ่งสกปรกบนใบหน้าแล้วยังจะช่วยทำความสะอาดรูขุมขนบนใบหน้าของคุณสาวๆ และยังช่วยกำจัดรอยสิวเสี้ยวได้อีกด้วย น้ำผึ้งช่วยให้คุณสาวๆ มีใบหน้าที่สะอาดและอ่อนนุ่มเท่านี้ใบหน้าสวยใสก็จะอยู่กับเราไปอีกนานแล้วล่ะค่ะ


เคล็ดลับ วิธีทำให้ผิวสวยไร้สิว

วิธีง่ายคือๆ นำน้ำผึ้งมาทาให้ทั่วหน้าหลังจากเราล้างหน้าสะอาดหมดจดแล้ว ถ้าจะให้ได้ผลดีต้องอบไอน้ำใบหน้าก่อนทาน้ำผึ้งเพื่อเป็นการขยายรูขุมขนก่อนแล้วจึงทาน้ำผึ้งทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที แล้วจึงค่อยๆ ใช้นิ้วนวดบนใบหน้าให้ทั่ว เว้นบริเวณรอบดวงตาเอาไว้ สุดท้ายล้างด้วยน้ำอุ่นและนำผ้าขนหนูเปียกๆ เช็ดใบหน้าให้สะอาดอีกที

ขอขอบคุณข้อมูลการดูแลผิวสวยผิวขาวจาก mthai.com ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต


จาก  http://www.n3k.in.th/%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87

กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ? มีคำตอบ!!!


กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ? มีคำตอบ!!!

เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) เชื่อว่า สาวๆ สมัยนี้ใช้กลูต้าไธโอนเป็นตัวช่วยที่จะทำให้คุณมีผิวขาวกระจ่างใสใช่ไหมหล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ก็เลยไปหาคำตอบของ กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ? มาไขคำตอบให้ได้รู้กันค่ะ เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะทราบมาว่า การกินกลูต้าไธโอนนั้นจะช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใส แต่สำหรับหลายๆ คนที่อยากจะขาวแต่เนื่องจากว่าไม่เคยกินกลูต้าไธโอนหรือบางคนสงสัยว่า กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ? วันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) มีความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ? นี้มาบอกให้สาวๆ ได้รู้กันค่ะ นอกจากจะมาไขข้อสงสัยที่ว่า กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ? เกร็ดน่ารู้ของเราในวันนี้ยังจะมาบอกอย่างเจาะลึกถึงการกินกลูต้าไธโอนอย่าถูกวิธีเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่สาวๆ หลายๆ คนต้องการอีกด้วยนะค่ะ ถ้าอย่างนั้นแล้วเราก็ไปทำความรู้จักกับกลูต้าไธโอนตัวช่วยเพื่อผิวขาวของสาวๆ กันเลยดีกว่าค่ะ


กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ


กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ?

กลูต้าไธโอน เป็น tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cysteine), กรดกลูตามิค (glutamic acid) และไกลซีน (glycine) ซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ และมีในอาหาร เช่น นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม หน้าที่หลักของสารตัวนี้ที่เด่นมีอยู่ 3 ประการ คือ

1. Detoxification

กลูต้าไธโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่างๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ1 จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ

2. Antioxidant

กลูต้าไธโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่

3. Immune Enhancer

ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอมรวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูตาไธโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ prostaglandin


หลายคนที่ซื้อกลูต้าไธโอน มาทาน แล้วทานทีละหลายๆ เม็ด และมีค่ามิลลิกรัมสูง อาจจะเป็นอันตรายส่งผลกับร่างกายของเรา ดังนั้นสาวๆ มาทำความเข้าใจกับการทานกลูต้าไธโอน ให้มีประสิทธิภาพกันดีกว่า เพื่อผิวขาวสุขภาพดี วิ๊ง วิ๊ง กันดีกว่าค่ะ


ปริมาณการทานกลูต้าไธโอน ของแต่ละคนไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว (ถ้าเป็นสาวรูปร่างใหญ่ก็จะมีเม็ดสีผิวเยอะกว่าสาวรูปร่างเล็ก จึงต้องทานมากกว่าคนรูปร่างเล็ก น้ำหนักมากทานมาก น้ำหนักน้อนทานน้อย นั่นเอง)


ตัวอย่างเช่น ถ้าคนหนัก 50 กิโลกรัม ถ้าจะทานเพื่อให้ผิวขาวจะต้องทานวันละ 1000-2000 mg. ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายบานปลาย แต่เราก็มีวิธีที่จะประหยัดลงได้ก็คือ ให้รับประทานเพียงวันละ 10 mg/kg/day แล้วให้ทานสาร antioxidize อื่นๆ คู่กันด้วย เช่น Vitamin C หรือ Vitamin E ซึ่งหากทานวิตามินซีคู่กับกลูต้าไธโอนจะต้องรับประทานเป็น 2 เท่าของกลูต้าไธโอน


ลองเทียบน้ำหนักและการทานกลูต้าไธโอน

- สาวๆ ที่น้ำหนักไม่เกิน 50 กก. ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 2 เม็ด คู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 1 เม็ด

- สาวๆ ที่น้ำหนักตัว 51-75 กก. ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 3 เม็ด คู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 2 เม็ด

- สาวๆ ที่น้ำหนักตัว 76-100 กก. ก็ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 4 เม็ดคู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 2 เม็ด
- ส่วนช่วงที่ทานกลูต้าไธโอนแล้วถูกดูดซึมดีที่สุด ก็คือ ช่วงท้องว่าง เช่น ตอนตื่นนอนใหม่ๆ อาจจะตอนก่อนนอน หรือก่อน-หลังทานอาหารมากกว่า 30 นาทีขึ้นไปค่ะ

ไม่ว่าจะเลือกทานกลูต้าไธโอนแบบไหน สิ่งแรกที่สาวๆ ควรคำนึงคือ ฉลาก อย. ว่าได้รับการรับรองมาแล้วหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ถ้าจะสวยก็ต้องเลือกสวยแบบมีคุณภาพและสุขภาพดีด้วยนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลการดูแลผิวสวยผิวขาวจาก womanplus ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต





จาก    http://www.n3k.in.th/%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%98%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD

การตัดต่อวีดีโอ


ตัดต่อวีดีโอง่ายๆ ด้วย Windows Movie Maker


Download::คู่มือการตัดต่ออย่างละเอียด


หลายๆ ท่านคงไม่รู้ว่า Windows ของเราก็มีโปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วยเหมือนกัน แถมใช้งานง่ายกว่าโปรแกรมตัดต่อวีดีโอทั่วๆไปอีกตังหาก ถึงลูกเล่นจะไม่มากเท่ากับโปรแกรมตัดต่อวีดีโอตัวอื่นๆ ก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับขนาดของไฟล์ที่มีขนาดเล็ก ประสิทธิภาพ และการใช้งานที่ง่ายไม่ยุ่งยาก ก็ถือว่าเป็นโปรแกรมที่น่าใช้งานตัวนึงเลยทีเดียว
โปรแกรมจะอยู่ที่ Start --> All Program --> Accessories --> Entertainment --> Windows Movie Maker

หากใครไม่มีก็สามารถไปดาวน์โหลดได้ที่นี่ Windows Movie Maker 2.0

การใช้โปรแกรม Windows Movie Maker


     1. เข้าไปที่ Manu Start
     2. เลือกไปที่ Program File
     3. เลือกไปที่โปรแกรม Windows Movie Maker


mo1.jpg



     เมื่อเข้าสู่โปรแกรม Windows Movie Maker จะปรากฏหน้าจอดังนี้
mo2.jpg



     4. เลือกภาพที่ต้องการจะตัดต่อ โดยเลือกที่ Manu Import Pictures
     5. เลือกไปยัง File ที่จัดเก็บรูปภาพไว้ ตัวอย่างเช่นเก็บรูปภาพที่ต้องการจะตัดต่อไว้ที่ไดร์ D ให้เลือก ไดร์ D ตรง Look in
     6. จะปรากฏ File ต่างๆ ที่จัดเก็บไว้ไดร์ D
     7. เลือก File รูปภาพที่ต้องการตัดต่อ
     8. เลือก Import

mo2.5.jpg



     หลังจากที่เลือก Import จากข้อ 8 จะปรากฏรูปภาพที่เลือกบนหน้าจอดังนี้
mo3.jpg



     9. จากนั้นให้เลือกภาพที่ต้องการตัดต่อมาว่างที่ Show storyboard โดยรูปภาพที่ต้องการตัดต่อนั้นให้วางตรงช่อง Video โดยการใช้เม้าล์คลิกแช่ไว้ตรงรูปภาพที่ต้องการแล้วลากมาตรงช่อง Video ตัวอย่างดังภาพต่อไปนี้
mo4.jpg



     10. วิธีการเพิ่ม Video Effects ในภาพที่ต้องการตัดต่อ โดยการคลิกเม้าด้านซ้ายมือตรงภาพที่เลือกที่จะตัดต่อ จะมี Manu ปรากฎขึ้นให้เลือกจากนั้นให้เลือก Video Effects ดังภาพต่อไปนั้
mo5.jpg



     11. หลังจากที่เลือก Video Effects บนหน้าจอจะโชว์ Effects ให้เลือก คลิกเลือก Effects ที่ต้องการ แล้วกด Add ตอบ OK ดังภาพต่อไปนี้
mo6.jpg




     12. วิธีการใส่ Video Transitions ระหว่างภาพที่ต้องการตัดต่อ โดยการเลือกที่ Video Transitions บนหน้าจอ ดังนี้
mo7.jpg



     13. จากนั้นหน้าจอจะปรากฎ Transitions ให้เลือก เลือก Transitions ที่ต้องการ ให้เม้าล์คลิกแช่ตรง Transitions ที่ต้องการแล้วลากไปวางระหว่างภาพที่จะตัดต่อ ดังภาพต่อไปนี้
mo8.jpg



     14. การ Import audio or music (การลงเพลง) โดยการการเลือกไปที่ Manu Import audio or music จากนั้น เลือก ไดร์ที่จัดเก็บFile เพลง ตรง Lock In เลือก File เพลงที่ต้องการแล้วเลือก Import ดังภาพต่อไปนี้
mo9.jpg



     หลังจาก Import audio or music แล้วจะปรากฎหน้าจอดังนี้
mo10.jpg



     15. ใช้เม้าส์คลิกลากเพลงที่ต้องการมาวางตรงช่อง Audio Music ดังภาพต่อไปนี้
mo11.jpg



     16. วิธีการแทรกข้อความบนภาพที่ต้องการตัดต่อโดยการ เลือกที่ Manu titles or cardits ดังนี้
mo12.jpg




     จากนั้นหน้าจอจะปรากฏรูปแบบให้เลือก ให้เลือกรูปแบบตามที่ต้องการ เช่น เลือกรูปแบบ Title on the selected clip ดังนี้
mo13.jpg



     จากนั้นพิมพ์ข้อความที่ต้องการแทรกลงบนภาพที่ต้องการตัดต่อ แล้วไปที่ Manu edit title text เลือกรูปแบบการโชว์ข้อความ ดังนี้
mo14.jpg




     จากนั้นให้เลือกไปที่ Manu Change the text font and color เพื่อกำหนด แบบข้อความ / แบบตัวอักษร / ขนาดตัวอักษร / สีตัวอักษร ที่ต้องการแทรกลงในภาพที่ตัดต่อ
mo15.jpg


          เป็นการเสร็จสิ้นการเพิ่มแบบอักษร





จาก  http://www.gooab.net/index.php?mo=3&art=143403

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม