กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ? มีคำตอบ!!!
เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) เชื่อว่า สาวๆ สมัยนี้ใช้กลูต้าไธโอนเป็นตัวช่วยที่จะทำให้คุณมีผิวขาวกระจ่างใสใช่ไหมหล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ก็เลยไปหาคำตอบของ กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ? มาไขคำตอบให้ได้รู้กันค่ะ เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะทราบมาว่า การกินกลูต้าไธโอนนั้นจะช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใส แต่สำหรับหลายๆ คนที่อยากจะขาวแต่เนื่องจากว่าไม่เคยกินกลูต้าไธโอนหรือบางคนสงสัยว่า กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ? วันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) มีความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ? นี้มาบอกให้สาวๆ ได้รู้กันค่ะ นอกจากจะมาไขข้อสงสัยที่ว่า กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ? เกร็ดน่ารู้ของเราในวันนี้ยังจะมาบอกอย่างเจาะลึกถึงการกินกลูต้าไธโอนอย่าถูกวิธีเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่สาวๆ หลายๆ คนต้องการอีกด้วยนะค่ะ ถ้าอย่างนั้นแล้วเราก็ไปทำความรู้จักกับกลูต้าไธโอนตัวช่วยเพื่อผิวขาวของสาวๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
กลูต้าไธโอนกินแล้วขาวจริงหรือ?
กลูต้าไธโอน เป็น tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cysteine), กรดกลูตามิค (glutamic acid) และไกลซีน (glycine) ซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ และมีในอาหาร เช่น นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม หน้าที่หลักของสารตัวนี้ที่เด่นมีอยู่ 3 ประการ คือ1. Detoxification
กลูต้าไธโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่างๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ1 จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ2. Antioxidant
กลูต้าไธโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่3. Immune Enhancer
ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอมรวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูตาไธโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ prostaglandinหลายคนที่ซื้อกลูต้าไธโอน มาทาน แล้วทานทีละหลายๆ เม็ด และมีค่ามิลลิกรัมสูง อาจจะเป็นอันตรายส่งผลกับร่างกายของเรา ดังนั้นสาวๆ มาทำความเข้าใจกับการทานกลูต้าไธโอน ให้มีประสิทธิภาพกันดีกว่า เพื่อผิวขาวสุขภาพดี วิ๊ง วิ๊ง กันดีกว่าค่ะ
ปริมาณการทานกลูต้าไธโอน ของแต่ละคนไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว (ถ้าเป็นสาวรูปร่างใหญ่ก็จะมีเม็ดสีผิวเยอะกว่าสาวรูปร่างเล็ก จึงต้องทานมากกว่าคนรูปร่างเล็ก น้ำหนักมากทานมาก น้ำหนักน้อนทานน้อย นั่นเอง)
ตัวอย่างเช่น ถ้าคนหนัก 50 กิโลกรัม ถ้าจะทานเพื่อให้ผิวขาวจะต้องทานวันละ 1000-2000 mg. ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายบานปลาย แต่เราก็มีวิธีที่จะประหยัดลงได้ก็คือ ให้รับประทานเพียงวันละ 10 mg/kg/day แล้วให้ทานสาร antioxidize อื่นๆ คู่กันด้วย เช่น Vitamin C หรือ Vitamin E ซึ่งหากทานวิตามินซีคู่กับกลูต้าไธโอนจะต้องรับประทานเป็น 2 เท่าของกลูต้าไธโอน
ลองเทียบน้ำหนักและการทานกลูต้าไธโอน
- สาวๆ ที่น้ำหนักไม่เกิน 50 กก. ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 2 เม็ด คู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 1 เม็ด- สาวๆ ที่น้ำหนักตัว 51-75 กก. ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 3 เม็ด คู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 2 เม็ด
- สาวๆ ที่น้ำหนักตัว 76-100 กก. ก็ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 4 เม็ดคู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 2 เม็ด
- ส่วนช่วงที่ทานกลูต้าไธโอนแล้วถูกดูดซึมดีที่สุด ก็คือ ช่วงท้องว่าง เช่น ตอนตื่นนอนใหม่ๆ อาจจะตอนก่อนนอน หรือก่อน-หลังทานอาหารมากกว่า 30 นาทีขึ้นไปค่ะ
ไม่ว่าจะเลือกทานกลูต้าไธโอนแบบไหน สิ่งแรกที่สาวๆ ควรคำนึงคือ ฉลาก อย. ว่าได้รับการรับรองมาแล้วหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ถ้าจะสวยก็ต้องเลือกสวยแบบมีคุณภาพและสุขภาพดีด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลการดูแลผิวสวยผิวขาวจาก womanplus ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
จาก http://www.n3k.in.th/%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%98%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น